หากต้องการมองหา เครื่องเสียงวัด ระบบเสียง ลำโพงวัด นั้นมุ่งเน้นไปในการกระจายเสียง ให้เสียงพูด(เทศน์)ชัดเจน โดยเฉพาะย่านเสียงกลาง และเสียงสูง
ข้อจำกัดของงานประเภทนี้คือ แหล่งกำเนิดเสียง(เสียงเทศน์) ไม่สามารถเข้าใกล้อุปกรณ์รับเสียง(ไมโครโฟน)ได้มากนัก เนื่องจากต้องวางอยู่บนขาตั้งไมโครโฟนที่ห่างจากปากพอสมควร ซึ่งไม่เหมือนกับการถือไมโครโฟนแล้วพูดโดยทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพระชั้นผู้ใหญ่ยังมีสุ้มเสียง ค่อนข้างเบากว่าปกติอีกด้วย
ดังนั้น จึงต้องอาศัยเทคนิคในการติดตั้งที่ช่วยเพิ่มความดังสูงสุดก่อนที่จะมีการหอน ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

- ไมโครโฟนที่ใช้ อาจจะต้องใช้ชนิดที่มีด้ามยาวกว่าปกติ เช่น Electro-Voice PC Desktop18 ซึ่งมีความยาวถึง 18”
มีขนาดก้านที่เล็ก จึงไม่บดบังทัศนียภาพในพิธีกรรมแต่อย่างใด
- ไมโครโฟนต้องมีรัศมีการรับสัญญาณที่แคบมากขึ้น เพื่อลดเสียงรบกวนด้านข้างลงไปให้มากที่สุด ในกรณีที่ ตำแหน่งการวางลำโพง และตำแหน่งการวางไมโครโฟน ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย ซึ่งคุณสมบัติของ PC Desktop18 หนึ่งรุ่น สามารถเลือก เปลี่ยนรัศมีการรับสัญญาณได้ ถึง 4แบบ นั่นคือ Omni directional, Cardioid, Super Cardioid และ Hyper Cardioid จึงสามารถนำไปใช้งาน ในลักษณะต่างๆได้ค่อนข้างอิสระ
- ลำโพงที่ใช้อาจจะต้องเปลี่ยนจากลำโพงดั้งเดิมซึ่งเป็นลำโพง Point source เป็นลำโพง “คอลัมน์” หรือ Column Speaker เพื่อลดการก้อง สะท้อนในโบสถ์ ศาลา ที่ส่วนใหญ่หลายๆวัด มักจะประสบปัญหาเสียงก้องเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
ความต่างกันของ ลำโพงดั้งเดิมแบบ Point source กับ ลำโพง Column คือ ลำโพงแบบดั้งเดิมจะมีมุมกระจายเสียงค่อนข้างกว้าง ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เช่น ลำโพง EVID 6.2 มีมุมกระจายเสียง 100°ในแนวนอนและ 80° ในแนวตั้ง โดยเฉพาะองศาทางแนวตั้ง เมื่อไปกระทบกับ ผนัง ฝ้า เพดาน กำแพง เป็นที่มาของเสียงก้องจนสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง ลำโพง Electro-Voice EVOLVE30M เป็นลำโพงคอลัมน์ ที่มีมุมกระจายเสียง 120° ในแนวนอน และ 40°ในแนวตั้ง ซึ่งถือว่าแคบพอสมควร และสามารถช่วยลดการก้อง ของเสียงภายในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย


- ลำโพงที่ใช้ ต้องมีความดังเสียงด้านหน้า และด้านหลังไม่ต่างกันมาก ซึ่งความแตกต่างของ ลำโพงดั้งเดิมแบบ Point source กับ ลำโพง Column ตามหลักทฤษฎี คือ ลำโพง Point source มีการลดทอนเสียงมากถึง 6dB ต่อการเพิ่มขึ้นของระยะทาง 2เท่า ในขณะที่ลำโพงColumn จะลดลงเพียง 3dB เท่านั้น ทำให้รับรู้ได้ว่า ลำโพงคอลัมน์ มีความดังเสียงเฉลี่ยใกล้เคียงกันทุกระยะ ความดังเสียงด้านหน้า และหลัง ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนั่นเอง
- มีเครื่องผสมสัญญาณเสียง (Mixer) ด้วยจำนวนช่องที่เพียงพอ และควบคุมสั่งการได้อย่างง่ายดาย ผ่านทาง โทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันมีลำโพง ที่ติดตั้ง Digital mixerในตัวลำโพงแล้ว เช่น EVOLVE30M, EVOLVE50M
สามารถรองรับ ไมโครโฟน ได้4ช่อง โดยทั้ง4ช่อง ยังสามารถจ่ายไฟเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้อีกด้วย
แถมยังสามารถเชื่อมต่อ หรือ สตรีมเสียงต่างๆ ผ่านทาง Bluetooth ได้อีกด้วย
และที่สำคัญด้วย EV Quick smart mobile app. สามารถควบคุมสั่งการ ไม่ว่าจะ ปรับEQเสียง ทุ้ม กลาง แหลม,เพิ่มความดัง ,ใส่เอฟเฟคต์เสียงต่างๆ ได้มากกว่า 20 แบบ ในทุกช่อง แถมยังมีPreset ให้เลือกใช้งานได้เลย ว่าจะนำไปใช้กับงานประเภทใด
เช่น Music ใช้เปิดเพลงทั่วไป
- Live ใช้เล่นดนตรีสด
- Speech ใช้กับงานพูด งานเทศน์ ซึ่งเหมาะกับการนำไปใช้ในวัดแน่นอน
- Club ใช้กับงานเปิดเพลงที่ต้องการเสียงทุ้มลึกมากเป็นพิเศษ
จะเห็นว่าในปัจจุบัน อุปกรณ์เสียง แต่ละประเภท เริ่มมีขนาดที่เล็กลง และใช้งานได้ง่ายดาย และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องต่อพ่วงกับอุปกรณ์ต่างๆให้วุ่นวายอย่างแต่ก่อน และงานประเภทศาสนสถาน เครื่องเสียง ลำโพงในวัด ก็มุ่งเน้นไปทางการใช้งานที่ง่าย อุปกรณ์น้อย เสียงดี และที่สำคัญราคาต้องสมเหตุสมผลอีกด้วย
ผลงานติดตั้งระบบเสียงวัดญาณเวศกวัน









ผลงานติดตั้งระบบเสียงโซนที่สอง: โซนหอฉัน
“หอฉัน” มันจะมีกิจกรรมอะไรให้ติดตั้งลำโพง?
ไม่รู้อะไรซะแล้วว่า นี่แหละคือไฮไลต์เลย เพราะญาติโยมพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต่างหอบหิ้วปิ่นโตมาถวายภัตตาหารเช้า และ เพลบริเวณนี้ โดยเฉพาะวัดของหลวงพี่แห่งนี้ มีญาติโยมเลื่อมใสศรัทธาไม่เคยขาดสาย สังเกตได้จากสิ่งของที่วางเต็มโต๊ะเรียงรายกระจายออกไปนับสิบ ซึ่งอารมณ์จะแตกต่างออกไปจาก โซนโรงทานที่ไปสำรวจก่อนหน้านี้
โซนหอฉันนี้ เมื่ออยู่ใกล้พระสงฆ์องค์เจ้า จะต้องมีความสำรวมกว่า โดยก่อนถึงเวลาถวายเช้าและเพล ทุกคนจะนั่งรอ ด้วยการสดับพระธรรมคำสอนของท่านเจ้าอาวาส ซึ่งจะเปิดเสียงเทศนามาจากแหล่งกำเนิดเสียง ง่ายๆ อย่าง USB เป็นต้น ซึ่งง่ายแก่การบันทึกและแจกจ่าย ทีนี้Mixer ที่ผมนึกถึงตัวแรก และจะใช้ในงาน คงเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้ นอกจาก
- Dynacord PM502
PM502 จะขอเรียกง่ายๆว่า พาวเวอร์มิกซ์ มันก็คือ มิกเซอร์หรือเครื่องผสมสัญญาณที่มีแอมป์ในตัวนั่นเอง
แล้วทำไมถึง ไม่ใช้ลำโพงที่มีแอมป์ในตัว? ในเมื่อทุกวันนี้ใครๆเขาก็ใช้กัน
เป็นคำถามที่ดีครับ
คือการจะเลือกใช้ลำโพงแอมป์ในตัว (Powered Speaker) หรือ จะเลือกใช้ พาวเวอร์มิกซ์ (Powered Mixer) มันก็มีข้อดีข้อเสีย หรือจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองอยู่
อย่างเช่น บางคนก็ชอบใช้ Powered mix อย่าง PM502 เพราะ
1. เป็นทั้งมิกเซอร์ เป็นทั้งแอมป์ที่นำไปขับลำโพงได้หลากหลายขนาด
8” 10” 12” หรือ 15” ก็ยังได้ ขอแค่กำลังวัตต์ถึง พร้อมกับ ขับได้ทั้ง 4โอห์ม 8โอห์ม และ 70/100V.ด้วย
หากไปดูกำลังขับของ PM502 จะเห็นว่า มีกำลังขับ 2ช่อง ช่องละ 450วัตต์ ที่4โอห์ม เลยทีเดียว
ซึ่งเหลือเฟือที่จะขับ ลำโพงอย่าง Electro Voice ZLX12 ขนาด12” และ ZLX15 ขนาด15” ซึ่งกินวัตต์เพียง 250 วัตต์เท่านั้น แต่ให้ความดังสูงสุดถึง 125dB ซึ่งนี่เราถือเป็น Mode Low Z
ใน Mode ของ Direct Drive เราจะมองว่าเป็น High Z ซึ่งจะเหมาะกับลำโพง ที่เดินห่างออกไปจาก ตัวแอมป์ เกิน 50เมตร
2. ไม่ต้องเดินสายไฟฟ้า 220V. ไปที่ตัวลำโพง อ้าว…ก็ถ้าเป็น ลำโพงแบบมีแอมป์ในตัวมันก็ต้องจ่ายไฟ เดินไฟฟ้าไป มันก็ยุ่งยากพอสมควรนะสำหรับบางคน
3. แอมป์รวมร่างกับมิกเซอร์ แต่น้ำหนักไม่มาก เพราะเป็น Class D ทำให้การขนย้ายสะดวก พร้อมกับเข้าแร็คได้อีกด้วย
4. รับสัญญาณขาเข้า ได้ 5ไมค์/ไลน์ และอีก 3 สเตอริโอ ซึ่งเพียงพอกับจำนวนพระคุณเจ้า ที่ต้องการใช้ไมค์ในการเทศนา
5. เป็น Digital Audio interface 2x2 จึงสามารถบันทึกเสียงได้
6. มี Audio Player USB เล่นไฟล์ MP3 และ WAV ได้
7. Master output ให้มาถึง 3 แบบคือ Master A, Master B และ Aux ซึ่งแต่ละ Out ก็มี Graphic EQ 7ย่านให้มาด้วย เพื่อปรับอคูสติกของ สถานที่นั้นๆที่นำลำโพงไปวาง
เห็นพูดถึงแต่ Powered mix แล้วลำโพงล่ะ?
แน่นอนครับ ญาติโยมที่รอพระคุณเจ้าฉันภัตตาหาร มีทั้งส่วนที่อยู่ในศาลาและอยู่ใต้ร่มไม้ ใต้ร่มไม้ผมขอเรียกว่าOutdoor ก็แล้วกันนะครับ
ย้อนกลับไปพูดถึง ลำโพง Outdoor กันอีกครั้ง ว่าคุณสมบัติของมันเนี่ย มันก็ต้องกันได้ทั้ง ฝุ่น ทั้งน้ำ
ซึ่งมันมักจะมี ตัวห้อยตามท้าย เช่น IEC 529 IP 44 & Mil Spec 810 Environmental Specs
อันนี้ ตัวเลขตัวหน้า กับตัวเลขตัวหลังมันก็มีความหมาย
ขอฉายซ้ำอีกครั้งนะครับ
ค่า IP ย่อมาจาก Ingress Protection Rating คือ มาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำ เลขตัวหน้าคือความสามารถในการกันฝุ่น เลขตัวหลังคือความสามารถในการกันน้ำ
เช่น Electro-Voice EVID 6.2T มีค่าIP34 ซึ่งแปลว่า ป้องกันฝุ่นขนาด 2.5mm และละอองน้ำได้ทุกทิศทาง
อันนี้หาอ่านกันได้ทั่วไปเลย…
ผมจะใช้ Powered mix แค่ตัวเดียวนี่แหละ Direct Drive 100V. ขับลำโพงOutdoor และด้านในหอฉันเลย
- ลำโพงด้านนอก ในส่วนใต้ร่มไม้ ซึ่งบางครั้งก็มีฝน มีแดด ผมจะเลือกใช้ลำโพง EVID 6.2T ซึ่งเป็นลำโพงรูปไข่ กันน้ำได้ IP34 ยึดกับขาแขวนแบบพิเศษห้อยลงมาจากกิ่งไม้ ยิงลำโพงออกไป 4มุม เพื่อประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องเดินสายหลายครั้ง
- ลำโพงทุกตัว จะ Tap ไปที่วัตต์สูงสุด คือ 60วัตต์
ซึ่งพอรวม ส่วนด้านในหอฉัน ที่ผมจะวาง EVID 6.2T อีก2ตัว ก็จะเป็น 6ตัว
วัตต์รวมก็แค่ 360 วัตต์ ซึ่งเหลือกำลังวัตต์อีกเพียบ เลยทีเดียว
เวลาพระท่านเทศนา ก็บันทึกเสียงลงคอมพิวเตอร์ แล้วค่อยแปลงไฟล์ แจกเป็น MP3 หรือ Wave ในรูปแบบของ USB เพื่อนำไปฟังง่ายๆ
เห็นไหมล่ะว่า โซนนี้ ทำไมต้องเป็น Powered mix
ว่าแล้วก็ไปต่อที่โซนถัดไปกันเลย…. แต่ไม่ใช่วันนี้นะครับไว้พบกันคราวหน้า!!!
ผลงานติดตั้งระบบเสียงศาสนสถาน







ผลงานโบสถ์
ดนตรีนมัสการ
บ้านผมอยู่ใกล้กับคริสตจักรแห่งหนึ่ง ซึ่งทุกวันอาทิตย์ ถือเป็นไฮไลต์ประจำสัปดาห์ ผมจะได้ฟังเพลงดีๆ นักดนตรีเก่งๆ แวะเวียนมาเล่น มาซ้อมเป็นประจำ ซึ่งถ้าใครไม่เคยเข้าโบสถ์คริสต์เลยสักครั้งในชีวิต ก็คงคิดว่า ในโบสถ์นั้นคงเต็มไปด้วยพิธีการเคร่งครัด เงียบขรึม ห้ามใช้เสียงอึกทึกครึกโครม
ซึ่งหาเป็นเช่นนั้นไม่
คำว่าโบสถ์ โปรเตสแตนต์ เรียก คริสตจักร
คาทอลิก เรียก วัด
แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะ ว่าผมเป็นพุทธศาสนิกชน ที่บ้านอยู่ติดทั้งวัดพุทธ และโบสถ์คริสต์
ซึ่งเวลามีคนมาหาผม ผมก็จะบอกเลยว่า บ้านผมทำเลดี มีวัด มีคริสตจักร และป่าช้า เป็นแลนด์มาร์ค
ผมเคยได้รับเชิญให้เข้าไปสังเกตการณ์ ในคริสตจักรอยู่หลายครั้ง จากรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขาก็ทราบดีว่า ผมพอจะมีความรู้ในงานทำระบบเสียงอยู่บ้าง
“จงชื่นชมยินดีในพระเจ้าอยู่ทุกเวลา
จงชื่นชมยินดีในพระองค์อยู่เสมอไป
จงชื่นชมยินดีในพระเจ้าอยู่ทุกเวลา
จงชื่นชมยินดีในพระองค์พระเจ้าของเรา”
ผมต้องฟังบ่อยขนาดไหน ถึงจะจำเนื้อเพลงได้แบบนี้ แน่นอนบทเพลง ที่เล่นซ้ำๆ กับคอร์ดง่ายๆ มันท่องขึ้นใจได้ไม่ยากอยู่แล้วครับ
งานวัดพุทธ หลวงพ่ออาจจะใช้ลำโพงฮอร์น กระจายเสียง ซึ่งดังไกลออกไปหลายกิโลเมตร ซึ่งก็เพียงพอสำหรับเสียงเทศน์แล้ว
แต่งานคริสตจักร เขาใช้ลำโพงฟูลเรนจ์ บวกซับวูฟเฟอร์ ซัดดนตรีกันครบทุกย่าน
Digital mixer, เครื่องดนตรี กีตาร์ กลอง คีย์บอร์ด ลำโพง ล้วนของดีทั้งนั้น



ไม่แปลกเลยที่เขาจะจัดคอนเสิร์ตกันได้ทุกอาทิตย์
ก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาช่วยดู ทางคริสตจักรเขาใช้ลำโพงใบใหญ่ยักษ์มาก ซึ่งปัญหาของลำโพงใบใหญ่คือ มันบดบังทัศนียภาพ และต้องใช้พื้นที่วางตู้แร็คแอมปลิไฟเออร์ ผมจึงแนะนำให้ใช้ลำโพงฟูลเรนจ์ รุ่นที่มีแอมป์ในตัวทั้งระบบ
ลำโพงฟูลเรนจ์ หรือ Full range Loudspeaker คือลำโพงที่มีครบทุกย่านเสียงใน
1 ตู้ยกตัวอย่างเช่น ลำโพง Electro-Voice ETX-15P เป็นลำโพงแอมป์ในตัว หรือ Powered ที่มีทั้งเสียงแหลม เสียงกลาง และเสียงทุ้มในลำโพง1ตู้ แต่ ลำโพงฟูลเรนจ์ ยังสามารถแยกประเภทลงไปได้อีกว่า เป็นกี่ทาง เช่น
2 Way Full range Loudspeaker ยกตัวอย่าง ETX-12P หมายถึงลำโพง1ตู้ ประกอบด้วย ดอกเสียงแหลม 1ดอก ดอกเสียงทุ้ม ขนาด 12 นิ้ว 1ดอก ซึ่งถ้าเปิดหน้าลำโพงออกมาดู เราจะเห็นโครงสร้างได้ชัดเจน แล้วถ้าเป็น 3ทางล่ะ
3 Way Full range Loudspeaker ยกตัวอย่าง ETX-35P ถ้าเปิดตู้ออกมาดู
เราก็จะพบว่า ใน1ตู้ ประกอบด้วย ดอกเสียงแหลม 1ดอก ดอกเสียงกลาง ขนาด 6.5นิ้ว 1ดอก และ ดอกเสียงทุ้ม ขนาด 15 นิ้ว 1ดอก
แล้ว2ทางกับ3ทาง ต่างกันยังไง? เสียงคมชัด ละเอียด ต้องยกให้3ทาง
และที่สำคัญ ราคาก็แพงชัดๆด้วย เพราะใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มากกว่า
สำหรับผม ถ้างบประมาณไม่ใช่ประเด็น ผมจะเลือก3ทาง ไว้ใช้งานแน่นอนครับ
“เรายกย่องพระนามพระองค์ …. เราสรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่” บนเวทีมือกีตาร์สาดเสียงแตกอย่างกับฟังดนตรีร็อก มือกลองก็หวดกลองแบบไม่คิดชีวิต เป็นภาพที่บ่งบอกได้ถึงพลังศรัทธาขีดสุด ข้างล่างทุกคนล้วนลุกขึ้นเต้น ไม่ก็กระโดดอย่างมีพลัง และมีอารมณ์ร่วม ดูฮึกเหิม เหมือนมาดูคอนเสิร์ต ยังไงยังงั้น
ความมีมวล ความอิ่ม ความลึก ความกระแทกหน้าอก (แล้วแต่ใครจะสะดวกเรียก) มันเกิดจากลำโพงซับวูฟเฟอร์ Subwoofer ครับ ยกตัวอย่าง ETX-18SP ซึ่ง ลำโพงแบบนี้ มันออกเสียงแค่ หึ่มๆๆ อึกๆ ตึกๆๆ คือมีแต่เสียงต่ำนั่นเอง แต่ขาดไม่ได้จริงๆ การที่คนจะลุกขึ้นเต้น เคาะมือ กระทืบเท้า มันเกิดจากการกระตุ้นด้วยเสียงจากลำโพงซับวูฟเฟอร์นี่แหละครับ ลำโพงประเภทนี้ การกระจายเสียงของมัน จะออกรอบตัว เรียกง่ายๆว่า อยู่ตรงไหนก็ได้ยิน ไม่เหมือนลำโพงกลางแหลม ที่มีองศาแน่นอน เช่น 90 x 60 ตัวเลขหน้า คือองศาทางแนวนอน ตัวเลขหลังคือองศาทางแนวตั้ง
การที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ กระจายเสียงได้รอบตัวนั้น ถือว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือ อยู่ตรงไหนก็ได้ยิน
ส่วนข้อเสียคือ ไปในที่ ที่ไม่อยากได้ยิน เช่นไปกวนบนเวที นักร้องได้ยินเสียงฮึมๆๆๆ ตลอดเวลา
หรือบางที ถ้าเป็นงานในห้อง หรือ หอประชุม ก็ไปสะท้อนกับผนังห้อง วนกลับมาหักล้างกับเสียงด้านหน้า
ถึงได้เกิด การทำ Cardioid Subwoofer ในลำโพงหลายๆ รุ่นที่เป็นลำโพงประเภทซับวูฟเฟอร์ เช่น EKX-18SP,ETX-18SP ซึ่งไม่ต้องตกใจ หากเห็นการวางลำโพง กลับหน้ากลับหลัง เพราะเขาใช้วิธีหันลำโพงกลับไปยังแล้วกลับเฟสแล้วก็หน่วงเวลา
นอกจากนั้น บนเวที นักดนตรียังต้องมีลำโพงมอนิเตอร์ เพื่อฟังเสียงตัวเอง หรือฟังเสียงอะไรก็ได้ที่อยากได้ยิน อ้าว!!!แล้ว นักดนตรีไม่ฟังเหมือนผู้ชมด้านล่างเหรอ? ทำไมต้องมีลำโพงแยกออกไปด้วย?
ระบบลำโพงมอนิเตอร์บนเวที หรือ สเตจมอนิเตอร์ Stage Monitor สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักดนตรีได้ยินเสียงที่ตัวเองเล่น อำนวยความสะดวกให้นักร้องได้ยินเสียงตัวเองชัดๆ ไม่ให้ร้องเพี้ยน หรืออีกนัยหนึ่งเสียงอะไรก็ได้ ที่คนยืนหน้าลำโพงตู้นั้นอยากได้ยิน โดยสัญญาณที่จะมาเข้า ไม่ใช่ สัญญาณซ้ายขวา(Master LR)ปกติ แต่เป็นสัญญาณจาก Aux หรือ Busแทน




แล้วรูปทรงของลำโพง เหมือนลำโพงด้วยทั่วไปไหม?
ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า “มีทั้งเหมือนและไม่เหมือนครับ” อ้าวเฮ่ย!!!
ประการแรกที่บอกว่าเหมือน
มันก็คือลำโพง Full range ที่เราใช้งานปกติ แบบเสียบขาตั้งนั่นแหละครับ แค่จับมันมาวางนอน ซึ่ง EKX-15P, ETX-15P, ELX200-15P ก็สามารถใช้เป็นมอนิเตอร์บนเวทีได้ทั้งหมด ใช้งานได้เอนกประสงค์ดีแท้ ซึ่งในประเทศไทย เรานิยมใช้ลำโพงที่มันเอนกประสงค์แบบนี้แหละ รุ่นเดียว เป็นได้ทั้งลำโพงหลักและลำโพงมอนิเตอร์ คุ้มค่าการลงทุน แต่….รูปลักษณ์ของมันดู เทอะทะไหมล่ะ เวลาที่วางอยู่บนเวที
ถ้าความหนา ความใหญ่ของมันคือปัญหา
ก็บอกแล้วไงว่า
มันมีลำโพงมอนิเตอร์ แบบที่รูปทรงไม่เหมือนลำโพง Full range ทั่วไป อยู่ด้วยนะ!!!
ยกตัวอย่าง Electro-Voice PXM-12MP ก็มันเป็นลำโพง Coaxial ที่เสียงแหลมกับเสียงทุ้ม มันร่วมแกนกัน มันก็เลยประหยัดพื้นที่ ลำโพงเลยเล็กลง บางลง เวทีเลยดูสะอาดขึ้นเยอะ แถมรุ่นนี้ยังมีแอมป์ในตัวอีกต่างหาก
ระบบเสียงยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เอาง่ายๆตั้งแต่การเข้ามาของ Digital ผมก็เริ่มสังเกตว่า เสียงฮัม เสียงจี่ ในระบบลดลงไปมากเลยทีเดียว เมื่อสัก 20ปีให้หลัง แอมป์ก็ค่อยๆบางลงๆ หรือไม่ก็รวม Crossover และอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ข้างใน ลำโพงเองก็มีเทคโนโลยีการออกแบบให้ใบเล็กลงแต่เสียงใหญ่ขึ้น เบาขึ้น นักดนตรีขนย้ายได้สะดวก เสียบปลั๊กแล้วเล่นได้ทันที ทุกวันนี้แค่มีเวลานอนฟังนักดนตรีซ้อม ผมก็มีความสุขมากแล้ว เพราะเสียงมันดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีอย่างเห็น(ฟัง)ได้ชัด
วันนี้เราพบกันแต่เพียงเท่านี้ครับ ต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร ติดตามกันต่อครับ….