ต้นปีนี้ เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้ากับการงานเป็นบ้า อยากจะออกไปชาร์จแบตฯ ให้ไฟในตัวที่กำลังจะหมดลงในไม่ช้านี้ ได้กลับมามีพลังอีกครั้ง…เหลือเกิน
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง !!!!
เอ้าเสียงโทรศัพท์ดัง ใครโทรมาอีกล่ะทีนี้
“ ช่วงนี้ โรงเรียนปิดเทอมแล้ว พาเด็กไปเที่ยวทะเลกันไหม?” เสียงจากปลายสาย ลอดออกมาจากโทรศัพท์ ที่ผมไม่ได้สนใจเมมเบอร์ด้วยซ้ำ หยิบมาดู เห็นเบอร์ ก็กดรับไปงั้นๆ จำได้ว่า มันเป็นเบอร์เพื่อนผมนี่หว่า คนสมัยเบอร์ 01 ก่อนจะพัฒนามาเป็น 081ทรงลุง พอๆกัน ดีไม่ดี หากนับกันจริงๆ ลูกสาวมันกับลูกสาวผม เกือบจะเกิดวันเดียวกัน เสียด้วยซ้ำ…
“เออว่ะ กำลังคิดหาที่พาลูกไปสร้างแรงบันดาลใจอยู่ ลูกชอบร้องเพลง ชอบเต้น” ผมน่าจะตอบตกลงไปแบบไม่รู้ตัว เพราะสำหรับเพื่อนสนิทคนนี้ ไม่ว่าจะไปหาเมื่อไหร่ มันไม่จำเป็นต้องนัดแนะ ไม่ต้องมากพิธี แม้จะรู้ว่าทำอย่างนั้นดูไร้มารยาท แต่ก็เป็นวัตรปฏิบัติที่เรียกว่าเป็นสันดาน(ของคนสองคน)ไปแล้ว
คนสมัยก่อนเขาไม่ค่อยชอบเมมเบอร์โทรศัพท์กันหรอก จริงไหม
ยุคสมัยก่อน คนเขียนจดหมายหากัน เขาจำได้แม้กระทั่งเลขที่บ้าน เลขซอย รหัสไปรษณีย์ รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์บ้านข้างๆด้วยซ้ำ
“ ลูกมึงชอบร้อง ชอบเต้น อย่าบอกนะว่า มึงจะหิ้วลำโพง8นิ้ว ที่มีแบตในตัวไป เหมือนตอนไปเที่ยวป่าคราวที่แล้ว”
เพื่อนมันน่าจะหมายถึง Electro-Voice Everse8 ลำโพงขนาด8นิ้ว ที่มีแอมป์และแบตเตอรี่ในตัว ที่ผมเคยพกติดรถไปร้องคาราโอเกะระหว่างเดินทาง และใช้ร้อง เล่น ช่วงกลางคืนในรีสอร์ทส่วนตัว ริมป่า
ผมจึงรีบปฏิเสธว่า
“ไม่ใช่เว้ย คราวที่แล้วมันยังไม่สะใจพอ พวกเราใช้ Everse8 ตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯจนถึงป่า และอยู่รอดตลอดคืน มันทำได้แค่12ชั่วโมงเอง คราวนี้มีเจ๋งกว่านั้นอีก”
“เล่นริมทะเล ลำโพงแบบคราวที่แล้วไม่น่าจะสู้เสียงคลื่นเสียงลมได้” ไอ้เพื่อนบ้านี่มันเริ่มปรามาสลำโพง EV ของผมเข้าให้
“จริงๆลำโพง Everse8 ก็สู้เสียงทะเลได้เว้ย ใบเล็กๆหอบหิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่คราวนี้ อยากได้เบสที่มันลึก เด็กๆ เต้นแล้วสนุก ลูกนอนแล้ว มึงจะเอากีตาร์มาเสียบ ร้องแข่งกับเสียงคลื่นก็ยังไหว แถมเล่นได้นานกว่าเดิมอีก รวมๆก็14ชั่วโมง” เพื่อนผมมันน่าจะยังไม่รู้ว่า ตอนนี้ Electro-Voice มีลำโพง 12นิ้ว ที่มีแอมป์และแบตในตัวแล้ว
ถ้ามันได้ฟัง มันจะต้องอยากได้ อยากซื้อ Everse12 แน่ๆ ดังนั้นผมจึงเริ่มแผนการวางยามันอีกครั้ง ด้วยการ
“งั้นคราวนี้ บอกให้เด็กๆ และแม่มันเตรียมเพลงที่อยากร้อง ใส่ลงโทรศัพท์ไว้ เดี๋ยวกูเอารถไปรับที่บ้าน”
………….ทุกครั้งที่ได้ชาร์จแบตลำโพง มันก็เหมือนได้ชาร์จแบต ให้ชีวิตของเรา…..
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
เชื่อไม่เชื่อก็ลองนึกตามนะครับ นับตั้งแต่ การอุบัติขึ้น ของ Everse8 ลำโพงรุ่นใหม่ในตอนนั้น ก็ได้ทำให้วันหยุด วันเดินทางกับครอบครัวของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล(พูดเหมือนในหนังเลยแฮะ)
เพราะมันสามารถใช้งานได้สารพัดจริงๆ ที่สำคัญมันยังเป็นลำโพงที่ใช้กับงานจริงจัง หาเงินหาทองได้อีกด้วย ภาษาในวงการเขาเรียกว่า Professional Sound ไม่ใช่แค่ว่าใช้งานลำลอง เปิดฟังเพลงอีเหละเขะขะ ตามสมัยนิยมเท่านั้น แต่… พวกงานเครื่องเช่า งานอีเวนต์ งานจริงจัง งานแบบเป็นทางการ ก็เอาไปใช้ได้
แล้วจาก8นิ้ว ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเป็นลำโพง 12นิ้ว ในชื่อรุ่น Everse12 ก็ยิ่งหาตัวเทียบได้ยาก ในแง่ของคุณสมบัติที่ดีกว่า และการควบคุมสั่งการที่ง่ายและเป็นมิตรกับกลุ่มผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
เพื่อนผมมันจะรู้ไหมว่า ผมเคยพานักดนตรี ไปเล่นเปิดหมวกริมชายหาดมาก่อนหน้านี้แล้ว
นักดนตรี 6 คน กีตาร์ คาฮอง เบส เปียโน รวมนักร้อง2คน ก็เป็น6 คน
ใช้ Everse12 จำนวน 2ใบ เป็นลำโพงหลัก กระจายเสียงให้กับคนฟัง โดยวางแหงนหน้า หรือKickback เพื่อประหยัดเวลา ประหยัดขาตั้งลำโพง และ ประหยัดแรงงานในการขนย้ายด้วย พูดง่ายๆว่า รถตู้คันเดียว ขนทั้งลำโพง ขนทั้งคนและเครื่องดนตรีก็เหลือแหล่แล้ว
ส่วนของมอนิเตอร์ ผมใช้ Everse8 จำนวน 2ใบ ต่อพ่วงจาก Mix out ของ Everse12 อีกที
และทั้งหมดนี้ มิกซ์เสียง EQ ใส่เอฟเฟคต์ ใส่ Comp แต่ละช่องได้เลย ทำเป็น Stereo ก็แค่กำหนดให้ลำโพงที่จะต่อพ่วงไปเป็น L เป็นR ได้ตามใจ
จำนวน Input มันรองรับได้ เหรอ? กี่ไมค์ กี่Line ?
นึกภาพตามนะ ใช้ Everse12 จำนวน 2ใบ
- In1 ของใบแรก ใบนี้ผมจะตั้งชื่อว่าเป็นใบ ซ้าย L
ผมเสียบสายไมค์ EV รุ่น Raven ไปจ่อคาฮอง คาฮอง มันคือเครื่องเคาะ ที่มีเสียง เบสดรัมกับเสียงสแนร์ ผมแค่ EQ ที่ย่านBass ให้กระชับ ลดเสียง Mid ลงเล็กน้อย แล้วค่อยไปเพิ่มTreble ให้ได้เสียงแซ่
- In2 ผมนำสัญญาณจาก Wireless Mic. ซึ่งสามารถให้ขาออกเป็น 2ช่องสัญญาณ ที่ผสมกันได้ ยกตัวอย่างคือ SKOTHZ รุ่น WM522 ทีนี้เราก็จะได้ เสียงไมค์ 2ตัว ซึ่ง ถ้าใครร้องดังกว่าใคร ผมก็ไปปรับบาลานซ์เอาที่ โวลลุ่มบนตัวรับของไมค์ไร้สาย หรือ Receiver ได้ ที่สำคัญคือ เขามีชุดถาดเสริม ที่สามารถต่อพ่วงเพื่อใช้ไฟเลี้ยง 12V.500mAจากตัวลำโพง Everse12 มาที่ Receiverได้เลย
-In3/4 ผมนำสัญญาณเบส มาเสียบเข้า ที่เลือกช่องนี้ เพราะเบส ผมจะไม่ใส่ เอฟเฟคต์
จากนั้น ที่ภาค Mix out ของลำโพงใบแรกนี้ ผมก็ไปกำหนด ให้ Mix out เป็น Stereo Right
โดยผม ต่อสายพ่วง จาก Mix out ใบแรก ไปต่อเข้าที่ In3/4 ของ ลำโพงใบที่สอง หรือลำโพงใบ R นั่นเอง
ทีนี้ ที่ลำโพงฝั่งR นั้น
-In1 ผมเสียบสัญญาณ กีตาร์เข้า
-In2 ผมเสียบสัญญาณจากเปียโนไฟฟ้า(แบบใช้ แบตเตอรี่)
สรุปให้อีกที จะเห็นได้ว่า ในระบบที่ไร้การเสียบปลั๊กนี้ ผมใช้งานกับเครื่องดนตรีได้มากถึง
1.คาฮอง
2.ร้องคนแรก Wireless ช่อง1
3.ร้องคนที่สอง Wireless ช่อง 2
4.เบส
5.กีตาร์
6.เปียโน
ด้วยการเล่นที่ความดังมหาศาล ถึง 100dB แถมยังควบคุมสั่งการ จากมือถือเพียงเครื่องเดียว ในชื่อ EV Quick smart mobile ได้อีกด้วย
เล่นดังขนาดนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหอน เพราะมี AFS Auto feedback suppressor และมี Graphic EQ ที่ชุด Master และหากไม่พอใจ ก็เปลี่ยนให้เป็น Parametric EQ แบบ 7Band เลยก็ยังได้
เล่นเข้าไปจนกว่าแบตเตอรี่จะหมด ก็ไม่ต่ำกว่า10ชั่วโมง คนหรือลำโพงจะตายก่อนกันให้มันรู้ไป…..
เอ้ายังไม่ได้ไปรับเพื่อนเลย….
ไปพบกันตอนต่อไปครับ กำลังมันเลย….